ลดต้นทุนการผลิตในเนื้อสัตว์และเนื้อผสม ด้วยเครื่อง ProFatTM สำหรับวิเคราะห์ความชื้น ไขมัน และโปรตีนในเนื้อ

  อุตสาหกรรมเนื้อและไก่  ที่เป็นพื้นฐานทำให้เศรษฐกิจเติบโต  มูลค่าสูง  สหรัฐอเมริกา  บริษัทฯ ต่างๆ ผลิตเนื้อและไก่ด้านเศรษฐกิจสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์  ปริมาณสูงขนาดนี้  ถ้าลดต้นทุนให้ต่ำลงเพียงเล็กน้อย  ทำให้กระทบต่อผลกำไรมากมาย

  การตรวจวัดไขมันในเนื้อดิบอย่างถูกต้องรวดเร็ว  ทำให้ผู้ผลิตไก่สามารถควบคุมวัตถุดิบ  และค่าใช้จ่ายในการผสมได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น  และลดการใช้

เนื้อมากกว่ามันหรือเรียกว่าค่าใช้จ่ายการผสมให้น้อยที่สุด Least Cost Formular (LCF) ที่มักจะใช้บ่อยเพื่อลดต้นทุนวัตถุดิบ ขณะเดียวกันก็ยังมี

ปริมาณตามมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ที่กำหนดและตามข้อกำหนดของผลิตภัณฑ์อย่างเคร่งครัด

  สิ่งนี้เป็นความท้าทายในด้านอุตสาหกรรมที่ราคาวัตถุดิบและปริมาณไม่คงที่   เพื่อให้ค่าการผสมให้ต่ำที่สุด (LCF)  และควบคุมการผลิตให้มีประสิทธิภาพ  ผู้ผลิตมีความจำเป็นจะต้องทดสอบค่าใช้จ่ายในการผสมให้น้อยที่สุด (LCF) รวมทั้งควบคุมการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุด  ดังนั้นจำเป็นต้องทดสอบไขมันด้วยความถูกต้องและรวดเร็ว

  กำหนดไขมันในเนื้อดิบด้วยความรวดเร็วและถูกต้อง  ทำให้ผู้ผลิตสามารถควบคุมวัตถุดิบและค่าใช้จ่ายในการผสมได้แม่นยำยิ่งขึ้น  ทำให้การใช้ส่วนของเนื้อที่มีมากกว่ามันทำให้แพงกว่า  ลดต้นทุนน้อยที่สุด Least Cost Formulation (LCF) มักใช้เพื่อใช้วัตถุดิบด้วยราคาต่ำ  ในขณะเดียวกันยังคงคุณค่าทางโภชนาการ  ตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด  สิ่งนี้มีความท้าทายของอุตสาหกรรมอาหารที่ราคาวัตถุดิบและปริมาณขึ้น-ลงอยู่เสมอ

  เมื่อลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำสุด (LCF) และควบคุมการผลิต ให้มีประสิทธิภาพ  ผู้ผลิตจำเป็นต้องตรวจสอบไขมันอย่างถูกต้องและรวดเร็ว

เครื่อง ProFatTM สำหรับวิเคราะห์ความชื้น ไขมัน และโปรตีนในเนื้อ  มีความเหมาะสมสำหรับวัดไขมันและโปรตีนในเนื้อดิบและเนื้อผสม  สามารถวิเคราะห์เสร็จในครั้งเดียว

ระบบของเครื่องรวมการวัดความชื้นด้วยไมโครเวฟ  แสดงข้อมูลการวิเคราะห์ไขมันและโปรตีน  ในตัวอย่างเนื้อต่างๆ ที่ยังไม่ได้ปรุงอาหาร (ได้แก่ เนื้อโค หมู ไก่ และปลา)  องค์ประกอบหลายอย่างนี้  สามารถวิเคราะห์ได้รวดเร็ว  สามารถใช้เพื่อควบคุมการผลิตและทำการปรับปรุงส่วนผสม  เพื่อให้ต้นทุนการผสมน้อยที่สุด (LCF)

ProFatTM สามารถใช้ตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่อง NIR (Near Infrared) ที่เชื่อมต่อกับเครื่องเอ็กซเรย์   ProFatTM  มีความถูกต้องเท่ากับเครื่องสกัดไขมันมาตรฐาน ได้แก่ เตาอบวิเคราะห์โปรตีนโดยวิธี titration รวมทั้งความชื้น ไขมัน และโปรตีนโดยต่อเนื่อง  เพื่อสาธิตความสามารถของ ProFatTM ให้ความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือในการวิเคราะห์  ความชื้น ไขมัน และปริมาณโปรตีนในเนื้อดิบและเนื้อคลุกจากตัวอย่างที่ได้รับจากการวิเคราะห์ ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

วิธีการเตรียมตัวอย่างและวิเคราะห์

เตรียมตัวอย่างด้วยเนื้อดิบชนิดต่างๆ  ตามวิธีวิเคราะห์ของ AOAC 983.18 (เตรียมตัวอย่างเนื้อและผลิตภัณฑ์เนื้อ)  คลุกเคล้าตัวอย่างกับอาหารที่ผลิตในท้องตลาดและคนให้เข้ากันด้วยช้อนปากกว้างก่อนทำการวิเคราะห์  แต่ละตัวอย่างวิเคราะห์ 3 ครั้งด้วย ProFat ใช้เวลาประมาณ 2.5 นาทีต่อตัวอย่าง  เพื่อเปรียบเทียบกับวิธีวิเคราะห์ไขมัน AOAC ที่ 360.39 เกี่ยวกับความชื้นในเนื้อ (950.46) และโปรตีน (981.10 โปรตีนดิบในเนื้อ)  รวมสามครั้ง

ผลการวิเคราะห์

ความถูกต้องและแม่นยำของ ProFat ในการวัดตัวอย่างเนื้อดิบ  แสดงให้เห็นในตารางที่ 1 และ ตารางที่ 2 แสดงให้เห็นค่าเฉลี่ยของ ProFat เท่ากัน  เมื่อเก็บค่าไขมัน ความชื้น  และโปรตีน  โดยวิธีมาตรฐาน AOAC 960.39 (ไขมันในเนื้อ 950.46) (ความชื้นในเนื้อ)  และ981.100 (โปรตีนดิบในเนื้อ)

ตารางที่ 1 เปรียบเทียบเปอร์เซ็นต์ของไขมัน ความชื้น และโปรตีน  วิเคราะห์ด้วย ProFat, Soxhlet, Oven และ Kjeldahl แสดงให้เห็นความแตกต่างของไขมันจากเนื้อโคและเนื้อไก่

แสดงให้เห็นความถูกต้องของ ProFat ในการวัดไขมัน  ความชื้น และโปรตีนในเนื้อดิบและเนื้อผสม 

ตารางที่ 2 แสดงให้เห็นย่านของค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviations)  ไขมันจาก 0.02-0.36% ความชื้น 0.02-0.28% และ 0.00-0.08%  โปรตีน  ตรวจวัดด้วย ProFat ผลการทดลองนี้  แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ProFat สามารถวัดได้ค่าเท่ากับการวัดทางเคมีที่อ้างอิงทั้งความชื้น ไขมัน และโปรตีนในตัวอย่างเนื้อดิบต่างๆ และเนื้อผสม  ตารางที่ 2 ความแม่นยำของ ProFat ในการวัดไขมัน ความชื้น และโปรตีนในเนื้อดิบและเนื้อผสม

สรุป

ProFat วิเคราะห์องค์ประกอบอาหาร ได้แก่ ไขมัน และโปรตีนในเนื้อดิบและเนื้อผสมได้สมบูรณ์  ใช้เวลาในนาที  มีความถูกต้องและแม่นยำเทียบเท่ากับวิธีมาตรฐาน AOAC  มีโปรแกรมวิธีวิเคราะห์ติดตั้งในเครื่อง  ทำให้ผู้ใช้สามารถวิเคราะห์เนื้อดิบเช่นเดียวกับเนื้อผสมด้วยความรวดเร็ว  ไม่เสียเวลาในการในการพัฒนาวิธีวิเคราะห์  เพราะได้ผลวิเคราะห์โดยตรงจากการวัดตัวอย่างโดยตลอด  นอกนั้น  ProFat ยังเหมาะสำหรับสอบเทียบเครื่อง X-ray และ NIR